‘คิม จองอึน’ เปิดตัว ‘ลูกสาว’ ครั้งแรก มีลุ้นวางตัวเป็น ‘ผู้นำรุ่นที่ 4’
นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกจับตามองไม่น้อย หลังจากที่ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือได้พา “ลูกสาว” ออกมาเปิดตัวระหว่างชมการทดสอบขีปนาวุธเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ “ทายาทรุ่น 4” แห่งตระกูลคิม ได้รับการยืนยันว่ามีอยู่จริงอย่างปราศจากข้อสงสัย
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 19 พ.ย. ว่า ผู้นำ คิม ได้เดินทางไปชมการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) รุ่น “ฮวาซอง-17” เมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า โดยมีสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง “รี ซอลจู” และ “บุตรสาวที่รัก” ของทั้งคู่ติดตามไปด้วย
สื่อโสมแดงยังเผยภาพถ่ายขณะที่ผู้นำ คิม จูงมือเด็กหญิงที่สวมเสื้อโค้ตสีขาว รองเท้าสีแดง เดินผ่านขีปนาวุธขนาดใหญ่ซึ่งถูกติดตั้งอยู่บนรถบรรทุก รวมถึงภาพที่สองพ่อลูกยืนมองขีปนาวุธพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากระยะไกล
แม้สื่อโสมแดงจะไม่ได้ระบุชื่อของเด็กหญิงผู้นี้ แต่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS) ได้แจ้งต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาในสัปดาห์นี้ว่า เด็กหญิงคนนี้น่าจะเป็นบุตรคนที่ 2 ของผู้นำ คิม ที่มีชื่อว่า “คิม จูเอ” (Kim Ju-Ae) และเวลานี้น่าจะอายุประมาณ 10 ขวบ
สาเหตุที่ NIS เชื่อว่าเธอเป็นบุตรคนที่ 2 ของผู้นำเกาหลีเหนือ ก็เนื่องจากมีข้อมูลข่าวกรองว่า คิม จูเอ เป็นเด็กที่รูปร่างสูงใหญ่กว่าเด็กหญิงในวัยเดียวกัน
หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ยังเชื่อว่า เด็กหญิงคนนี้ก็คือบุตรสาววัยแบเบาะของ คิม ที่ “เดนนิส ร็อดแมน” อดีตนักบาสเกตบอลดาวดังของเอ็นบีเอ บอกว่าเคยเจอขณะไปเยือนเปียงยางเมื่อปี 2013
ร็อดแมน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเดอะการ์เดียนของอังกฤษหลังกลับจากเปียงยางในปีนั้นว่า เขาได้ใช้เวลาพักผ่อนริมทะเลแบบเป็นส่วนตัวกับครอบครัวคิม และมีโอกาสได้อุ้มลูกสาวของผู้นำเกาหลีเหนือที่ชื่อว่า “จูเอ” ด้วย
สื่อเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ผู้นำ คิม แต่งงานกับ รี ซอลจู เมื่อปี 2009 และมีบุตรด้วยกัน 3 คนซึ่งเกิดในปี 2010, 2013 และ 2017 ตามลำดับ บางรายงานระบุว่า บุตรคนแรกของผู้นำเกาหลีเหนือเป็น “ชาย” และคนสุดท้องเป็น “หญิง”
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การที่ คิม พาลูกสาวออกมาเปิดตัวในการทดสอบขีปนาวุธคราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความฮึกเหิมและเชื่อมั่นในศักยภาพของคลังแสงนิวเคลียร์ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยค้ำจุนอำนาจของตระกูล คิม ไว้ ขณะที่บางคนตั้งข้อสังเกตว่า หากในอนาคต คิม ยังคงพาลูกสาวคนนี้ออกงานด้วยบ่อยๆ ก็อาจจะสื่อถึงการวางตัวเธอให้เป็นผู้นำรุ่นต่อไป
กระนั้นก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าแนวคิดเรื่อง “ผู้นำหญิง” แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับสังคมเกาหลีเหนือที่เน้นระบบชายเป็นใหญ่ (patriarchy) และสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าก็คือ ผู้นำ คิม ต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้ประชาชนได้เห็นว่า โครงการนิวเคลียร์คือ “อาวุธ” ที่จะช่วยปกป้องลูกหลานโสมแดง เหมือนอย่างที่สื่อของเปียงยางใช้คำพูดว่าเป็นดั่ง “อนุสาวรีย์ที่จะถูกส่งมอบต่อไปยังชนรุ่นหลัง”